วิธีออกแบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบบ Inter-VLAN Routing(Dedicated Interface)

Inter-VLan

Inter-VLAN

Inter-VLAN Routing คือการทำให้ host ( PC,Notebook,Server) ที่อยู่ต่าง VLAN กัน ติดต่อกันได้ โดยต้องมีอุปกรณ์ที่อยู่ใน Layer 3 มาช่วย ตัวอย่างอุปกรณ์ Layer 3 ที่ทำ InterVLAN ได้เช่น Router , Switch Layer 3 เป็นต้น

Using 3 scenarios: LAB 1-3

  1. Dedicated Interface  ( Config แบบกำหนด gateway ให้ interface router เปลือง router port )
  2. Router-on-a-stick ( Config แบบแบ่ง interface router เป็นแบบย่อยๆเชื่อมต่อเข้ากับ Trunk port L2 Switch)
  3. Layer-3 Switching  ( Config แบบ Switch Virtual Interface switch L3 ทำงานได้เร็ว แต่มีราคาแพง)

 

Route-on-stick

 เป็นการนำเอา Router มา Route traffic ระหว่าง VLAN โดยอาศัยการทำ Sub-interface ย่อยใน Router ซึ่งแต่ละ Sub-interface จะต้องกำหนด IP address ซึ่งทำการเหมือนกับ physical ปกติ ซึ่งส่วนมากจะใช้กับ Network ที่ไม่มี L3SW โดยที่ต้องมีการนำ Trunk port L2 Switch ต่อไปยัง Router ที่ทำหน้าที่ InterVLAN สรุปง่ายๆ คือ Interface ของ Router ที่ต่อเข้ากับ Trunk port L2 Switch จะต้องได้รับการแบ่งออกเป็น sub-Interface ย่อยๆ เพื่อรองรับ Traffic ในแต่ละ VLAN จากนั้นแต่ละ Sub-interface จะต้องกำหนดให้ มี Encapsulation ให้เป็น

 isl หรือ dot1q ให้ตรงกันกับ Encapsulation ของ Trunk port L2 Switch และสุดท้าย Ip address บน Sub-interface ต่างๆ ใน VLAN หนึ่งๆ จะเป็น Gateway ของ Client บน VLAN นั้นๆ

 

Routing Information Protocol (RIP)

เป็น Routing Protocol แบบ class full (สำหรับ RIPv1) และ classless (สำหรับ RIPv2) ใช้ใน network ที่มีขนาดเล็ก เนื่องจาก RIP เป็น distance-vector routing และใช้ hop count ในการหาเส้นทางในการรับส่งข้อมูล ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลได้มากที่สุด 15 hop count

RIP ใช้ UDP ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง router  โดยที่จะมีการ advertising information ทุกๆ 30 วินาที แต่ถ้า router ไม่ได้รับข้อมูล information update ภายใน 180 วินาที จะถูก router จัดว่า unusable และถ้าไม่มีการ update ภายใน 240 วินาที จะถูกลบออกจาก routing table

สำหรับ RIPv2 นั้น support การ authentication แบบ plain text และ MD5 นอกจากนั้นยังรองรับ VLSMs, route summary และ CIDR

 

Trunk Port

เป็น Port ที่สามารถมี Traffic ของหลายๆ VLAN วิ่งผ่านได้

ตัวอย่างในการตั้งค่า Port ของ Switch ให้เป็น Trunk Port เช่น

- Port ที่ทําหน้าที่เชื่อมต่อไปยัง Switch ตัวอื่น ๆ เช่น Uplink Port

- Port ที่ทําหน้าที่เชื่อม ไปยัง Router ตัวที่ทําหน้าที่ Route Traffic ระหว่าง VLAN

Access Port

Port ที่ถูกตั้งค่าเป็น Access Port จะมี traffic ของ VLAN เพียง VLAN เดียววิ่งผ่านได้ ตัวอย่างในการตั้งค่า Port ให้เป็น Access Port เช่น

- Port ที่เชื่อมต่อระหว่าง Switch และ Client

- Port ที่เชื่อมต่อระหว่าง Switch และ Server

- Port ที่เชื่อมต่อระหว่าง Switch และ Router (มีข้อแม้ว่า Router ที่เชื่อมต่อนั้น จะต้องไม่ใช่ Router ที่ทําหน้าที่ในการ Route Traffic ระหว่าง VLAN)

 

การทำ Virtual Lan นั้นจะเป็นการแบ่ง Broadcast Domain ของเครือข่ายออกจากกัน

Broadcast Domain คือ ขอบเขตการกระจายข้อมูล ซึ่งจะเกิดบน Layer 2 เพื่อให้เห็นภาพการทำงานขอให้เพื่อน ๆ นึกถึงห้องประชุมใหญ่ ๆ ที่มีคนมาประชุมกันอยู่ โดยมีชื่อห้องว่า Vlan 10 นะครับ การพูดคุยต่าง ๆ ภายในห้องประชุมนี้ก็จะกระจายอยู่ภายในห้องใช่มั้ยครับ สำหรับรูปแบบการกระจายข้อมูลภายในเครือข่ายนั้นจะมีอยู่ 3 รูปแบบ ดังนี้

Broadcast เป็นการแพร่กระจายข้อมูลไปยังทุกเครื่องภายในเครือข่าย เพื่อให้เห็นภาพ ก็ขอให้นึกถึงห้องประชุมห้องเดิมนะครับ เมื่อมีใครซักคนนึงภายในห้องนี้พูดขึ้นมาว่า “ทุกคน โปรดฟังทางนี้” นี่ก็คือการ Broadcast ครับ คือกระจายข้อมูลไปยังทุก ๆ โฮสต์ใน Vlan นั้น ๆ

Multicast จะแตกต่างกับ Broadcast อยู่นิดหน่อย ถ้าเป็น Multicast ขอให้เพื่อน ๆ นึกถึงห้องประชุมห้องเดียวกันนี้ มีคนพูดขึ้นมาเหมือนกัน แต่ไม่ได้พูดว่า “ทุกคน” แต่อาจจะพูดว่า “กลุ่มสีน้ำเงิน โปรดฟังทางนี้” ซึ่งถึงแม้ว่าทุกคนภายในห้องนี้จะได้ยินข้อความนี้ แต่จะมีเพียงกลุ่มสีน้ำเงินเท่านั้นที่นำข้อมูลนี้มาใช้ประโยชน์

Unicast ก็ขอให้เพื่อน ๆ นึกถึงห้องประชุมห้องเดิมต่อนะครับ เมื่อเราอยู่ในห้องประชุมนี้ เราต้องการที่จะคุยกับ นาย A แต่ในตอนแรกเราจะไม่ทราบใช่มั้ยครับว่าคนไหนกันแน่คือนาย A เมื่อเราต้องการที่จะคุยกับนาย A ในครั้งแรกนั้น เราก็จะต้องถามไปก่อนว่าคนไหนคือนาย A โดยการพูดว่า “นาย A โปรดฟังทางนี้” ซึ่งทุกคนภายในห้องประชุมนี้จะได้ยิน แต่จะมีเพียงนาย A เท่านั้นที่ตอบรับกลับมา แต่ในการติดต่อสื่อสารครั้งต่อไป เราก็จะรู้แล้วว่าคนไหนคือนาย A เราก็สามารถที่จะเข้าไปคุยกับนาย A ได้โดยตรงทันที เปรียบเสมือนกับในเครือข่าย Lan ที่เมื่อต้องการส่งข้อมูลไปยังปลายทางในครั้งแรก จะต้องมีการส่ง ARP โดยการ Broadcast ไปถามก่อน ว่า IP Address นี้มี Mac Address เป็นอะไร แต่เมื่อทราบค่า ARP แล้วเราก็จะสามารถติดต่อกับเครื่องนั้น ได้โดยตรง

ขั้นตอนการออกแบบระบบ

1.กำหนดหมายเลข Address ให้กับเครื่องลูกข่าย ดังภาพ

Inter Vlan

 

2. เชื่อมต่อ computer ข่าย PC0-PC5 เข้ากับ Switch layer2 พร้อมสร้าง VLAN10 VLAN20 VLAN30 ให้ interface switch layer2 ( SW1 และ SW2)

 Inter-VLAN Routing

 

2.1 Config VLAN ให้ interface SW1

Switch>ena

Switch#config t

Switch(config)#hostname SW1

SW1(config)#vlan 10

SW1(config)#vlan 20

SW1(config)#vlan 30

SW1(config-vlan)#exit

SW1(config)#

SW1(config)# interface range fastEthernet 0/1-9

SW1(config-if-range)#switchport mode access

SW1(config-if-range)#switchport access vlan 10

SW1(config-if-range)#exit

SW1(config)# interface range fastEthernet 0/10-19

SW1(config-if-range)#switchport mode access

SW1(config-if-range)#switchport access vlan 20

SW1(config-if-range)#exit

SW1(config)# interface range fastEthernet 0/20-24

SW1(config-if-range)#switchport mode access

SW1(config-if-range)#switchport access vlan 20

SW1(config-if-range)#exit

Inter-VLAN Routing

 

2.2 Config VLAN ให้ interface SW2

Switch(config)#hostname SW2

SW2(config)#vlan 10

SW2(config)#vlan 20

SW2(config)#vlan 30

SW2(config-vlan)#exit


SW2(config)# interface range fastEthernet 0/1-9

SW2(config-if-range)#switchport mode access

SW2(config-if-range)#switchport access vlan 10

SW2(config-if-range)#exit

SW2(config)# interface range fastEthernet 0/10-19

SW2(config-if-range)#switchport mode access

SW2(config-if-range)#switchport access vlan 20

SW2(config-if-range)#exit

SW2(config)# interface range fastEthernet 0/20-24

SW2(config-if-range)#switchport mode access

SW2(config-if-range)#switchport access vlan 20

SW2(config-if-range)#exit

Inter-VLAN Routing

3. Set Trunk port ให้ SW1 และ SW2

กำหนด interface gigabitEthernet 0/1  ของ SW1 ให้เป็น mode Trunk

SW1(config)#interface gigabitEthernet 0/1

SW1(config-if)#switchport mode trunk

กำหนด interface gigabitEthernet 0/1  ของ SW2 ให้เป็น mode Trunk

SW2(config)#interface gigabitEthernet 0/1

SW2(config-if)#switchport mode trunk

Inter-VLAN Routing

 

4. กำหนด IP address ให้ Server เครือข่าย ฝั่ง server

Inter-VLAN Routing

5. กำหนด IP address interface ให้ Router2 และ กำหนด routing protocols แบบ RIP Ver2

Inter-VLAN Routing

Router(config)# hostname R2

R2#(config)#interface gigabitEthernet 0/0

R2#(config-if)#ip address 199.199.199.2 255.255.255.252

R2#(config-if)#no shutdown

R2#(config)#interface gigabitEthernet 0/1

R2#(config-if)# ip address 199.199.199.129 255.255.255.128

R2#(config-if)#no shutdown

 

Inter-VLAN Routing

 

routing protocols แบบ RIP Ver2

R2 (config)# router rip

R2 (config-router)#no auto-summary

R2 (config-router)#version 2

R2 (config-router)# network 199.199.199.0

R2 (config-router)# network 199.199.199.128

 

6. ทำการ configuration router หรือ Switch ตามโจทย์ ที่กำหนดให้มา

1.       Dedicated Interface 

2.       Router-on-a-stick

3.       Layer-3 Switching

Inter-VLAN Routing

 

 

Dedicated Interface  ( Config แบบกำหนด gateway ให้ interface router เปลือง router port )

Inter-VLAN Routing

 

 

ขั้นตอนการ config  router interface เพื่อให้ network address ต่างกันหากันเจอ

Router R1  Set gigabitEthernet 0/0  ip address 199.199.199.1  เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายภายนอก

Router R1  Set gigabitEthernet 0/1  ip address 192.168.10.1 เป็น Gateway ให้ Switch L2 วง VLAN10

Router R1  Set gigabitEthernet 0/2  ip address 192.168.20.1 เป็น Gateway ให้ Switch L2 วง VLAN20

Set routing protocols RIP Version2  ให้ router R1 เพื่อส่งข้อมูลข้ามเครือข่ายได้

* วง VLAN30 ไม่ได้ทำการเชื่อมต่อ กับ Router จึงไม่สามารถติดต่อข้ามเครือข่ายได้

 

R1(config)#interface gigabitEthernet 0/0

R1(config-if)#ip address 199.199.199.1 255.255.255.252

R1(config-if)#no shutdown

R1(config)#interface gigabitEthernet 0/1

R1(config-if)#ip address 192.168.10.1 255.255.255.0

R1(config-if)#no shutdown

R1(config)#interface gigabitEthernet 0/2

R1(config-if)#ip address 192.168.20.1 255.255.255.0

R1(config-if)#no shutdown

 

Set routing protocols RIP Version2  ให้ router R1 ส่งข้อมูลข้ามเครือข่ายได้

R1(config)#router rip

R1(config-router)#version 2

R1(config-router)#no auto-summary

R1(config-router)#network 199.199.199.0

R1(config-router)#network 192.168.10.0

R1(config-router)#network 192.168.20.0

R1(config-router)#exit

 

ตรวจสอบ configuration โดย Cmd   R1#show running-config

Inter-VLAN Routing

 

 

ผลการทดสอบ เครื่อง server และ computer วง VLAN10,VLAN20 สามารถติดต่อกันได้

วง VLAN30 ไม่ได้ทำการเชื่อมต่อ กับ Router จึงไม่สามารถติดต่อข้ามเครือข่ายได้

Inter-VLAN Routing

 

 

Inter-VLAN Routing

 

ประเภทเนื้อหาของ article
Computer Network
Rating
Average: 4.7 (3 votes)